Featured Gladness & Joy Lifestyle

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

หากใครที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณถนนเยาวราช ในตัวเมืองภูเก็ต ก็คงจะรู้สึกแปลกตากับอาคารขนาดใหญ่ ที่มีดีไซน์แนวโมเดิร์น พร้อมชื่อที่เก๋ไก๋ว่า “อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว” หรือ Infinite Insight ซึ่งมี คุณวิศาล เอกวานิช นักธุรกิจใหญ่ของเมืองภูเก็ต และเป็นเจ้าของร้านหนังสือ เดอะบุ๊คส์ ที่ทุ่มงบประมาณกว่าร้อยล้านบาทเพื่อสร้าง อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งเรียนรู้นอกระบบ ตามแนวคิด “รู้ศึกษาคือรู้โลก รู้สึกตัวคือรู้ธรรม ทั้งหมดรวมกันคือรู้ชีวิต” โดยวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ และหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนา มานำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย เข้าใจง่าย เพื่อให้เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

และเรื่องราวความน่าสนใจอยู่ที่ว่า คุณวิศาล เอกวานิช เกิดความตั้งใจในการเปิดอาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว เนื่องจากมีโอกาสได้อ่านหนังสือ “ไอน์สไตน์ถามพระพุทธเจ้าตอบ” ของ อาจารย์ ศุภวรรณ กรีน เจ้าของแนวคิดของสถาบัน “พาตัวใจกลับบ้าน” ทำให้มุมมองในพุทธศาสนาของเขาเปลี่ยนไป และเปิดตัวอาคารแห่งนี้ขึ้น เพื่อให้มีร้านหนังสือ, สถาบันกวดวิชา, แหล่งเรียนรู้, ห้องสมุด แต่จุดที่เป็นหัวใจสำคัญและเป็นความตั้งใจจริงของเขาที่อยากจะนำเสนอสู่สังคมภูเก็ต ก็คือห้องสมุดธรรมะ และสถาบันพาตัวใจกลับบ้าน เรามาทำความรู้จักกันดูว่า ทำไมแนวคิดพาตัวใจกลับบ้าน ถึงมีอิทธิพลกับนักธุรกิจผู้นี้ และแนวคิดที่ว่านี้น่าสนใจและเหมาะกับสังคมในปัจจุบันอย่างไร

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ตเพราะในยุคที่ฆราวาสออกมาสอนธรรมกันอย่างมากมาย และ อาจารย์ ศุภวรรณ กรีน เจ้าของหนังสือธรรมมะขายดีหลายเล่ม ก็เป็นท่านหนึ่งที่ได้นำคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการปฏิบัติที่เรียกว่า “สติปัฐฐาน 4” (การนำ สติ มาตรึงที่ฐานทั้ง 4 ) หรือที่ทุกคนคุ้นเคยกันในชื่อเรียกว่า “การเจริญสติ วิปัสสนาภาวนา” มาประยุกต์ และ ถ่ายทอด ด้วยถ้อยคำภาษาที่เข้าใจง่ายเหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบัน โดยอาจารย์ได้เปิดอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่สถาบันอย่างเป็นทางการแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ที่ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ในจังหวัดภูเก็ต โดยภายห้องสถาบันจะมีหนังสือของอาจารย์, วีดีโอ, และแผ่นภาพนำเสนอแนวคิดพาตัวใจกลับบ้าน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาได้

แนวคิดพาตัวใจกลับบ้าน (Bring Your Mental Self Back Home)

โดยอาจารย์ศุภวรรณ กรีน ผู้คิดค้นและเผยแพร่แนวคิด นิยามว่า พาตัวใจกลับบ้าน เป็นการฝึกฝนทักษะสั้นที่เข้าใจง่าย และเป็นการฝึกสติในชีวิตประจำวันที่เหมาะกับคนยุคนี้ เพราะท่ามกลางความตึงเครียดของคนในประเทศ จากปัญหา เศรษฐกิจ การงาน ชีวิตคู่ โรคภัยไข้เจ็บ และสังคมการเมือง คนจะสามารถควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมที่เกิดจาก “ความจำ-ความคิด-ความรู้สึก” ของตนเองได้ ด้วยการทำความเข้าใจและรู้เท่าทันกลไกการทำงานของชีวิต

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

ให้ความรู้ทางธรรมอันเป็นภาคทฤษฎี ซึ่งทางชมรมจะเน้นความรู้เรื่องการทํางานของขันธ์ 5เป็นหลัก ความรู้เรื่องขันธ์นี้เพียงพอที่จะช่วยให้ปัจเจกบุคคลเข้าใจการทํางานของจิตใจตนเอง เข้าใจว่าความ ทุกข์เกิดขึ้นได้อย่างไร และจะดับความทุกข์ในใจตนเองได้อย่างไร จึงนําตัวการ์ตูนอันมีชื่อเสียงของ วอลท์ ดิสนีย์ คือ ทอมกับเจอรี่ มาเปรียบเทียบเพื่ออธิบายส่วนที่เป็นนามธรรมของขันธ์ 5 ให้เข้าใจได้ ง่ายขึ้น “ธรรมะทอมกับเจอรี่” ได้เป็นวลีที่รู้จักกันดีในกลุ่มลูกศิษย์ของอาจารย์ศุภวรรณ แต่ยังไม่ได้ เป็นที่รู้จักและยอมรับของคนหมู่มาก ฉะนั้น สถาบันพาตัวใจกลับบ้านนี้จึงจะใช้สื่อต่างๆเป็นเครื่อง มือที่จะช่วยกระจาย “ธรรมะทอมกับเจอรี่” (ความรู้เรื่องขันธ์ 5)ให้คนหมู่มากเข้าใจการทํางานของ จิตใจได้

ให้ความรู้ทางภาคปฏิบัติที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาเพื่อช่วยให้ผู้เรียนรู้สามารถนํากลับไปปฏิบัติได้ ทันทีในกิจวัตรประจําวันทั้งที่บ้านและที่ทํางาน ซึ่งต้องพบปะผู้คนที่ทั้งชอบและไม่ชอบพร้อมทั้งบท ทดสอบที่ยุ่งยากซับซ้อนของชีวิต ภาคปฏิบัติที่จะช่วยให้คนคลายทุกข์และเอาชนะความทุกข์ในทุกรูป แบบได้คือ ความรู้เรื่องสติปัฏฐานสี่ วิปัสสนา หรือ พาตัวใจกลับบ้าน (วลีที่อาจารย์ศุภวรรณ กรีนได้ สร้างขึ้นมา) อานิสงส์จากการฝึกวิปัสสนามีดังนี้คือ

สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน @ อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ภูเก็ต

เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ แก้ที่จิตใจของมนุษย์ เมื่อจิตใจของมนุษย์แข็งแกร่งจากการ ฝึกฝนทักษะการเอาสติมาตรึงที่ฐานแล้ว ปัจเจกบุคคลที่ปฏิบัติธรรมเหล่านี้จะเกิดปัญญาและ จะสามารถแก้ปัญหาชีวิตต่างๆได้ตามที่ตนเองเห็นสมควรและเหมาะสม แม้ต้องประสบกับ ปัญหาที่แก้ไม่ได้ ผู้ปฏิบัติสติปัฏฐานก็จะมีจิตใจที่แข็งแกร่งพอที่จะอยู่กับปัญหาได้โดยไม่เป็น ทุกข์ ซึ่งเป็นความอัศจรรย์อย่างยิ่งของการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่ที่มนุษย์ทุกคนจะต้องมาลอง ปฏิบัติแล้วจะเห็นผลได้ด้วยตนเองนั่นคือ สามารถอยู่กับปัญหาชีวิตได้โดยไม่เป็นทุกข์ จะมี การเน้นภาคปฏิบัติเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ต้องการเรียนรู้สามารถจับหลักการปฏิบัติเรื่อง การเอาสติมาตรึงที่ฐาน หรือ พาตัวใจกลับบ้านได้อย่างถูกต้อง

การช่วยให้ปัจเจกบุคคลรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้จนเห็นผลที่ทําให้ตนเองทุกข์น้อยลงหรือหาย ทุกข์นั้น คือ วิธีการเดียวที่จะช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่มนุษยชาติได้ตราบนานเท่า นาน จะช่วยทําลายมิจฉาทิฏฐิอื่นๆที่เข้ามาแอบอ้างว่าเป็นคําสอนของพุทธศาสนา จะช่วยแก้ปัญหาสังคมที่ต้นตออันคือจิตใจได้อย่างแท้จริง เป็นปัจจัยสําคัญที่จะช่วยให้คนไทย อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ มีสันติภาพและเป็นสุขอย่างแท้จริง เพราะเท่ากับเป็นการสร้าง วัฒนธรรมสติปัฏฐานเพื่อเป็นวิถีการดํารงชีวิตให้แก่คนหมู่มาก

ผู้สนใจสามารถเดินทางไปศึกษาได้ที่ สถาบันพาตัวใจกลับบ้าน ชั้น 3 อาคารรู้ศึกษา รู้สึกตัว ถนนเยาวราช ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โทร 076 211 115

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.