วันนี้ทีมงาน Phuketindex.com ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณกิตติพงศ์ แก่นแก้ว ทนายความชาวภูเก็ต เจ้าของสำนักงานกฎหมายคนึงธรรมนิติ อีกทั้งยังมีดีกรีกรรมการสภาทนายความภูเก็ต ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต และ อดีตเลขานุการพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 ภูเก็ต
ประสบการณ์ตรงทำให้หันมาศึกษาด้านกฎหมาย
เดิมมีความชอบด้านศิลปะมากกว่า แต่มีแรงจูงใจที่ถือว่าเป็นจุดหักเหเลย ซึ่งก็เป็นประสบการณ์ตรงของครอบครัวผม เนื่องจากตอนเป็นเด็กครอบครัวได้ประสบกับปัญหาด้านกฎหมาย ได้รับความไม่เป็นธรรมบางอย่างเกี่ยวกับปัญหาที่ดิน การไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทำให้เรารู้สึกว่าเสียเปรียบ นั่นจุดประกายให้หันมาศึกษาด้านกฎหมาย
จากลูกพ่อขุนเข้าสู่การเมือง
จบปริญญาตรีนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโทนิติศาสตร์ วิชาเอกกฎหมายมหาชน จากมหาวิทยาลัยรามคำแหงเช่นเดียวกัน เริ่มแรกที่เรียนจบปริญญาตรีก็เป็นทนายความที่กรุงเทพฯ ได้ประมาณ 4 ปี ก็ได้รู้จักกับ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต คุณสุวิทย์ เสงี่ยมกุล ท่านได้ชักชวนให้มาช่วยงานด้านกฎหมายในตำแหน่ง เลขานุการพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 ภูเก็ต ต่อจากนั้นก็มีโอกาสได้ลงสนามเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ได้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต 2 สมัย โดยลงเลือกตั้งครั้งแรกก็ได้รับเลือกเลย เพราะเคยทำงานและช่วยเหลือชาวบ้านด้านกฎหมายมาก่อน
สำนักงานกฎหมายคนึงธรรมนิติ
“คนึง” เป็นชื่อคุณพ่อ เลยนำมาตั้งเป็นชื่อสำนักงานเพื่อความเป็นมงคล สำนักงานเปิดมา 13-14 ปีแล้ว ที่เปิดสำนักงานตรงนี้ เพราะมันอยู่ในเขตชุมชนที่มีชาวบ้านเยอะ อยู่ใกล้ชุมชนร่วมน้ำใจ และชุมชนหลังศาลากลาง ด้วยความตั้งใจว่าจะให้เป็นศูนย์ให้คำปรึกษากับชุมชนฟรี คือ ใครไม่มีเงินก็ช่วยกันไป แล้วเก็บเงินจากคนที่มีเงิน เพื่อมาช่วยจุนเจือให้คนกับที่ด้อยโอกาสกว่า สำนักงานทนายความเหมือนร้านขายข้าวแกง ถ้าอาหารอร่อยคนก็มาเอง ปัจจุบันมีทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยที่มาติดต่อใช้บริการคดีส่วนใหญ่เป็นพวกยาเสพติด และปัญหาทางด้านที่ดิน
ทนายความคนไม่อยากเจอ
ปกติทั่วไปแล้ว คนไม่เค้าไม่อยากจะมาหาทนายความ เพราะถ้ามาหาทนาย คือต้องมีเรื่อง มีความทุกข์ต้องการความช่วยเหลือ แต่ก็มีคนอีกประเภท คือคนที่โลภอยากได้ของคนอื่น ซึ่งประเภทหลังนี้เราไม่รับทำ
บทบาททนายความ
คาดหวังให้ทนายความรุ่นใหม่ตรงไปตรงมา บอกความจริงลูกความ ว่าคดีสู้ได้ไหม และต้องมีความน่าเชื่อถือ ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือคน เพราะทนายเป็นอาชีพที่มีโอกาสทำสิ่งพวกนี้ได้ โดยปัจจุบันผมเป็นกรรมการสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต ตอนนี้ก็ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ช่วยคนที่ไม่มีเงินโดยการให้คำปรึกษาฟรี
เสี่ยงไหม
ถ้าพูดถึงความเสี่ยงก็เสี่ยงนะ อาชีพนี้เหมือนขาข้างหนึ่งอยู่ในห้องขัง แต่ถ้าพูดไปแล้วคือเราต้องทำให้ดีที่สุด ซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง
อยากเป็นทนายความต้องทำอย่างไร
การเป็นทนายความจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ เพราะมีหลายขึ้นตอน ต้องสอบใบอนุญาต ผ่านการอบรมจากสภาทนายความ ฝึกงานตามสำนักงานทนายความ ให้มีประสบการณ์ กว่าจะว่าความได้ต้องใช้เวลา 1-2 ปี เป็นอย่างน้อย เพื่อประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ
คนที่อยากเป็นทนายความ โดยส่วนตัวมองว่าคนส่วนใหญ่อยากเป็นผู้พิพากษา อัยการ แต่การจะไปถึงขั้นนั้น ต้องผ่านการเป็นทนายความก่อน ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ถ้าใครอยากเป็นทนายความจริงๆ ต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพ
ห่วงเรื่องคนที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอย่างแท้จริง
ปัญหาของวงการทนายความภูเก็ต ตอนนี้มีปัญหาคือ อาชีพทนายความเป็นอาชีพอิสระ คนที่อื่นก็สามารถมาเปิดสำนักงานที่ภูเก็ตได้ เปิดกี่สาขาก็ได้ ทำให้ทนายความจากที่อื่นหลั่งไหลเข้ามา บางครั้งทำให้ไม่ทราบที่มาแน่ชัด และนอกจากนี้ยังมีต่างชาติที่เข้ามาเปิดสำนักงานกฎหมาย โดยที่ไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลย อาศัยจ้างทนายความมาทำงาน
สำนักงานกฎหมายความที่เชื่อถือได้
สำนักงานกฎหมาย ปัจจุบันต้องทำการขึ้นทะเบียนกับสภาทนายความ ต้องมีใบประกาศรับรองการจดทะเบียน ดังนั้นหากต้องการใช้บริการอยากให้ดูตรงนี้
คนึงธรรมนิติมีบริการด้านกฎหมายใดบ้าง
สำนักงานบริการงานด้านกฎหมายโดยทั่วไป อาทิ ว่าความ คดีแพ่ง อาญา ครอบครัว คดีเด็ก จดทะเบียนที่ดิน คดีมรดก กฎหมายมรดก วีซ่า กฎหมายธุรกิจ รางวัดที่ดิน ทั้งนี้เอกสารสำคัญของลูกค้า เราจะเก็บไว้ที่เซฟของธนาคาร เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า
สุดท้ายขอย้ำว่า “ที่นี่ไม่คิดค่าปรึกษาเบื้องต้น เข้ามาคุยกันได้ เราคิดว่าการให้คำปรึกษา
เป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้น ที่ลูกค้าควรรู้”
สำนักงานกฎหมายคนึงธรรมนิติ
1/4 ซอยอัยราชธนารักษ์ ถนนศรีเสนา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทร +66 (0) 81 298 4035, +66 (0) 76 240 247
อีเมลล์ ghetlawyer@hotmail.com
เว็บไซต์ https://business.phuketindex.com/kanungtam-law-office