“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต
People

“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต

“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต

สังคมไทยในปัจจุบัน ‘ดนตรี’ เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของความหลากหลายในตัวผลงาน และการเปิดกว้างด้านแนวคิดของศิลปิน ด้วยความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีที่มีมากกว่าในอดีต เดี๋ยวนี้เพียงแค่คุณร้องเพลงอัดคลิปลงเผยแพร่ในโลกสังคมออนไลน์ หากความสามารถเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมจริงๆ ก็อาจจะบันดาลให้คุณเป็นผู้มีชื่อเสียง หรือก้าวสู่การเป็นนักร้องอาชีพได้เพียงข้ามคืน นับรวมถึงความนิยมในการจัดเวทีการแข่งขันด้านร้อง เล่น เต้น ระดับประเทศทั้งหลาย ที่ปั้นคนธรรมดาให้เป็นศิลปินคุณภาพระดับประเทศ

ปัจจัยเหล่านี้เองที่ทำให้ธุรกิจโรงเรียนสอนดนตรีเปิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะผู้ปกครองมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากให้ลูกหลานมาฝึกฝนดนตรี บางทีอาจจะเป็นใบเบิกทางให้มีอนาคตที่ก้าวหน้าก็เป็นได้ แต่สำหรับในภูเก็ตนั้น ช่วงระยะหลายๆ ปีที่ผ่านมา มีนักร้องชาวภูเก็ตชนะเลิศการแข่งขันประกวดร้องเพลงระดับประเทศ เช่น เดอะ สตาร์ ค้นคว้าฟ้าดาว โดยหลายคนได้รับการฝึกสอนตั้งแต่เด็กจากโรงเรียนสอนดนตรียามาฮ่าภูเก็ต และในโอกาสนี้เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณศาสวัต หลิมพาณิชย์ หรือ คุณจอม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. อินเตอร์ มิวสิค จำกัด ผู้อยู่เบื้องหลัง สถาบันสอนดนตรีที่มีการดำเนินการแบบมืออาชีพ และได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาวงการดนตรีในภูเก็ตให้มีชื่อเสียง

แนะนำตัวด้านการศึกษาและการทำงาน

ผมเกิดที่จังหวัดภูเก็ต เรียนระดับประถม ที่โรงเรียนภูเก็ตไทยหัว ระดับมัธยม ที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย ต่อจากนั้นก็ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโท ที่ Chalmers University of Technology, ประเทศสวีเดน ในด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากทางครอบครัวประกอบธุรกิจด้านสระว่ายน้ำ และบ่อบำบัดน้ำ จึงเลือกเรียนสาขาที่เกี่ยวข้อง

สำหรับในด้านดนตรี ผมเริ่มต้นเล่นดนตรีตั้งแต่ 10 ขวบ โดยหัดเล่นคีบอร์ดเป็นอย่างแรก ต่อมาก็ได้เปลี่ยนมาเน้นเล่นอิเล็กโทน โดยตอนนั้นต้องเดินทางไปฝึกฝนที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ (ยามาฮ่าเดิม) ที่กรุงเทพฯ กับอาจารย์สิทธิพร ประเสิรฐผล โดยเฉพาะช่วงปิดภาคเรียน ก็จะไปอยู่ที่โน่นเป็นเดือนๆ จนมีโอกาสได้เข้าแข่งขัน อิเล็กโทน โซโล่ ในรายการ Yamaha Thailand Music Festival เป็นเวลากว่า 6 ปี ก่อนจะได้รับรางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศไทย คุณพ่อจึงมีความรู้สึกว่าสักวันหนึ่ง ต้องการที่จะเปิดโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต ให้เยาวชนได้เข้ามาเรียนใกล้บ้าน อยู่ในความดูแลของครอบครัว ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปเรียนถึงกรุงเทพฯ แต่ติดตรงที่ว่า ณ ตอนนั้นในภูเก็ตมีโรงเรียนสอนดนตรีเปิดอยู่ก่อนแล้ว

“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต

จุดเริ่มต้นของ P.K. Inter Music

กล่าวได้ว่าธุรกิจโรงเรียนดนตรี สำหรับครอบครัว ‘หลิมพานิชย์’ เป็นความฝัน เพราะคุณพ่อของผม มีความหลงใหลในดนตรี รวมถึงตัวผมเองก็ผูกพันและเห็นคุณค่าของดนตรีมาตั้งแต่จำความได้ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2547 บริษัท พี.เค. อินเตอร์ มิวสิค จำกัด (P.K. Inter Music) ก็เริ่มต้นขึ้น และมีพัฒนาการทางธุรกิจ รวมถึงผลตอบรับที่ดูจากลูกค้าเรื่อยมา โดยปัจจุบัน เรามีธุรกิจโรงเรียนสอนดนตรียามาฮ่า (Yamaha Music School) รวมถึงขยายไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง คือ โรงเรียนนาฏยสากลภูเก็ต (PIDA) โรงเรียนละ 2 สาขา ที่ศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาใหญ่ และสาขานครภูเก็ต นอกจากนั้นยังได้เปิดศูนย์จำหน่ายเครื่องดนตรีคุณภาพทุกชนิด ในนามของ Sound Gallery โดยรวมเอาศูนย์รวมเครื่องดนตรียามาฮ่า Beat Spot และศูนย์อบรมเทคโนโลยีทางด้านระบบเสียงดิจิตอล YDACC (Yamaha Digital Audio Creative Center) ไว้ด้วยกันภายใต้คอนเซ็ปท์ Touch the Real Pro ซึ่งทุกคนสามารถทดลองเล่น และสัมผัสกับคุณภาพเครื่องดนตรี และเครื่องเสียงอย่างเต็มที่

ความน่าสนใจของ P.K. Inter Music

ในส่วนของโรงเรียนสอนดนตรียามาฮ่า (Yamaha Music School) เป็นที่ทราบกันดีว่ามีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ซึ่งมีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งใช้ใน 47 ประเทศทั่วโลก และเหมาะสำหรับทุกช่วงวัย โดยได้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่สนใจ แม้ว่าจะเล่นดนตรีไม่เป็นมาเลย ก็สามารถนำมาพัฒนาต่อได้ จนถึงระดับที่แต่งเพลงได้ หรือเป็นครูสอน รวมถึงเรายังมีการจัดคลาสคอนเสิร์ตทุกๆ 6 เดือน เพื่อใช้เป็นพื้นที่ให้นักเรียนได้ปล่อยของ โชว์ความสามารถที่ร่ำเรียนมา รวมถึงใช้สำหรับเลือกนักเรียนที่มีแววประสบความสำเร็จ ส่งเสริมให้ไปแข่งขันในระดับภาค และระดับประเทศในลำดับต่อไป ในรายการยาม่าฮ่า ไทยแลนด์ มิวสิค เฟสติวัล ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้เข้าเฝ้ารับถ้วยประทาน และอาจได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งในระดับนานาชาติต่อไป นอกจากนั้นนักเรียนที่สอบในหลักสูตรยามาฮ่า จะได้รับใบรับรอง (Certificate) จาก Yamaha Music Foundation, Japan ว่าอยู่ในระดับเกรดอะไร เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้เป็นใบเบิกทางในการไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย หรือการประกอบอาชีพในอนาคตได้ ด้านคุณครูของเรา ก็ได้มาจากการออดิชั่น เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถจริง อีกทั้งมีนักวิชาการจากส่วนกลาง เดินทางมาประเมินคุณภาพอยู่เสมอว่าเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคุณครูจะต้องผ่านการสอบเกรดตามระบบยามาฮ่าเช่นกัน เรียกได้ว่าทั้งผู้เรียนและผู้สอนของเราต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต

สำหรับโรงเรียนนาฏยสากลภูเก็ต (PIDA) เริ่มต้นจากการที่เราต้องการพัฒนาทักษะให้กับเด็ก ที่สนใจการเต้น และการแสดง เพราะเป็นความสามารถที่น่าสนใจ และนำไปต่อยอดได้ในหลากหลายสายงาน รวมถึงช่วยพัฒนาบุคลิกภาพ โดยใช้หลักสูตรมาตรฐาน ATOD, ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งอยู่เบื้องหลังภาพยนต์เรื่อง Step Up 2 โดยเรายังได้จัดกิจกรรมละครเพลง (Musical Dance Show) เช่น Mulan หรือล่าสุดก็การ์ตูนชื่อดังอย่าง Frozen ให้เด็กๆ ได้เข้ามาคัดเลือกเพื่อร่วมแสดง และเปิดการแสดง ณ โรงละครไซมอนสตาร์ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ที่ภูเก็ตไม่เคยมีการแสดงเช่นนี้มาก่อน

“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต

และอีกส่วนคือ Sound Gallery เราได้นำเครื่องดนตรีของยามาฮ่า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีราคาที่หลากหลาย นำมาจำหน่ายให้กับนักเรียนหรือผู้ที่สนใจทั่วไป เพราะเราอยากให้เค้ามีโอกาสได้มาจับของจริง มาทดลองเล่นก่อนที่จะซื้อ อีกส่วนคือนักเรียนที่ต้องการเอาดีอย่างจริงจัง ก็จะได้มีโอกาสซื้อเครื่องดนตรีไปหัดเล่นที่บ้าน ก็จะส่งผลดีหากต้องการจะพัฒนา โดยกำไรจากการขายในส่วนนี้เราก็นำมาจ้างนักดนตรีมืออาชีพ มาเปิดเวิร์คชอปให้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับนักเรียนของเรา

ความสามารถทางดนตรีของเยาวชนภูเก็ต

ต้องบอกว่าตลอดระยะเวลาที่เราเปิดธุรกิจนี้ขึ้นมา นักเรียนมีพัฒนาการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และน่าชื่นชมที่หลายคนประสบความสำเร็จในระดับประเทศ เช่น แก้ม วิชญาณี ชนะเลิศการประกวด เดอะ สตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว รวมถึง ฮิโตชิ มิยาชิตะ ที่ชนะเลิศในการแข่งขันกีตาร์คลาสสิค ระดับโลก ซึ่งทั้งสองมีพื้นฐานจากการที่ได้มาเรียนกับโรงเรียนของเรา รวมถึงในการแข่งขันยามาฮ่า ไทยแลนด์ มิวสิค เฟสติวัล ระดับประเทศไทย นักเรียนของเราก็ชนะเลิศมาแล้วแทบจะทุกประเภท เชื่อว่าความสำเร็จเหล่านี้ช่วยปรับทัศนคติให้กับผู้ปกครอง ที่มีส่วนในการช่วยสนับสนุนเด็กๆ ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ไม่ได้มองเหมือนในอดีตว่าการเล่นดนตรีหรือร้องเพลง ไม่สามารถทำเป็นอาชีพหรือสร้างชื่อเสียงได้

“ศาสวัต หลิมพานิชย์” ผู้ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนดนตรีในภูเก็ต
ฝากถึงผู้ที่กำลังตัดสินใจมาเรียนที่ Yamaha Music School หรือ PIDA

ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้ปกครองในภูเก็ต ที่สนับสนุนลูกหลาน และให้ความเชื่อมั่นในโรงเรียนของเรา ในปัจจุบันนอกจากการเรียนด้านวิชาการ ความสามารถพิเศษที่เด็กๆ ควรจะฝึกฝนไว้ คือ ดนตรี เพื่อช่วยในการพัฒนาขีดความสามารถของแต่ละบุคคล และนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งในการเรียนและการทำงาน แต่สำหรับคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ ควรที่จะส่งเด็กมาเรียนตั้งแต่ 3-4 ขวบ (จูเนียร์ มิวสิค คอร์ส) เพื่อฝึกฝนการฟัง เพราะช่วงวัยนี้จะสามารถเปิดรับและเรียนรู้ได้อย่างละเอียด หากสามารถแยกแยะการฟังโน้ตดนตรีได้แม่นยำ และได้เริ่มทดลองเล่นเครื่องดนตรีที่ชอบมากที่สุด ก็มีโอกาสสูงที่จะเล่นดนตรีได้ในระดับสูง นอกจากนั้นโรงเรียนของเราก็ยังเปิดรับผู้ที่สนใจในทุกช่วงวัย ขอเชิญให้ลองเข้ามาสอบถามและเยี่ยมชมบรรยากาศก่อนได้ เรายินดีต้อนรับทุกท่าน

Yamaha Music School (Phuket) และ Phuket International Dance Academy มี 2 สาขา ตั้งอยู่ที่

สาขาศูนย์การค้าบิ๊กซี ชั้น 2 : 72 ม.5 ถ.เฉลิมพระเกียรติ (บายพาส) ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร. 076 249 409 แฟกซ์ 076 249 409

สาขานครภูเก็ต : 158 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร 076 213 655 แฟกซ์ 076 213 644

และ Sound Gallery : 158 ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 โทร 076 213 655 แฟกซ์ 076 213 644

เว็บไซต์ www.pkintermusic.com

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.