คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล กับวัฒนธรรมการแต่งกายสไตล์บ้าบ๋า
Featured People

คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล กับวัฒนธรรมการแต่งกายสไตล์บ้าบ๋า

คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล ได้ชื่อว่าเป็นชาวภูเก็ตที่แต่งกายสะท้อนความสวยงามตามแบบฉบับสาวบ้าบ๋าได้อย่างน่าสนใจ ใครได้เห็นก็ชื่นชม ภูเก็ตอินเด็กซ์จึงถือโอกาสอันดีพาคุณไปทำความรู้จักคุณสุชาดากับความหลงใหลของเธอในการแต่งกายแบบบ้าบ๋า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันทรงคุณค่าอีกด้านของชาวภูเก็ตพื้นถิ่น ที่ได้รับการอนุรักษ์เพื่อเสริมสร้างเสน่ห์ให้ย่านเมืองเก่าของเรา

ทำไมถึงสนใจการแต่งกายแบบบ้าบ๋า
ในวัยเด็กดิฉันเคยเห็นพี่สะใภ้ของคุณพ่อ ท่านแต่งกายด้วยชุดปาเต๊ะและผ้าลูกไม้ มีความสวยงามมาก ก็เกิดความใฝ่ฝันที่จะแต่งอย่างท่านบ้าง พอโตมา เรียบจบ มาทำงานก็ได้มีโอกาสรู้จักคุณแม่ของเพื่อนท่านหนึ่ง ท่านจะแต่งตัวสวยด้วยผ้าปาเต๊ะและผ้าลูกไม้ทุกวัน ทุกครั้งที่เจอ ก็มีความคิดว่าถ้าถึงวัยอันควรก็อยากจะแต่งแบบนี้ หลังจากนั้นไม่นาน ประมาณปี 2544 ดิฉันก็ได้มาเปิดร้านขายรถจักรยานยนต์ภูเก็ตนำแสงตรงย่านเมืองเก่าซึ่งเป็นสไตล์ชิโนโปรตุกีส จึงคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสที่เราจะได้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ ถ้าย้อนไปเมื่อก่อนก็มีโอกาสได้ใส่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ใส่ทุกวัน พอมาเปิดร้านในย่านนี้ ก็เริ่มใส่ หากวันไหนไม่ได้ใส่ก็จะมีคนถามว่าทำไมวันนี้ไม่ใส่มา กลายเป็นว่าทุกคนจะคอยสังเกต ก็เลยมีความคิดว่าสงสัยเราจะใส่ได้สวยแน่ จึงเป็นเหตุให้ชอบเดินร้านขายผ้าปาเต๊ะในย่านเมืองเก่า แล้วก็เริ่มแต่งกายแบบนี้เรื่อยมา

ความพิเศษของการแต่งกายแบบบ้าบ๋า
เสน่ห์ของเสื้อคอตั้งแขนจีบ คือ ความผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมของคนไทย คนจีน และมลายู ลักษณะคอเสื้อตั้งสูงเป็นวัฒนธรรมมาจากเมืองจีน แขนจีบเป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากอินเดีย มาเลือกใส่กับผ้าปาเต๊ะ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมชองแถบมลายู ผู้สวมใส่จะดูดีมีสง่า เป็นชุดที่สุภาพ ตอนนี้เสื้อคอตั้งแขนจีบหรือเสื้อย่าหยากำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทุกคนนอกเหนือจากจะเข้ามาเยี่ยมชมความงามของสถาปัตยกรรมย่านเมืองเก่าหรือร้านค้า วิถีชีวิตต่างๆ ก็มักจะให้ความสนใจการแต่งกายแบบนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากจะใส่เสื้อคอตั้งแขนจีบกับผ้าโสร่งปาเต๊ะหรือเสื้อย่าหยาแล้วเดินท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่าหรือเก็บภาพตามตึกสวยๆ ในภูเก็ตบ้านเรา

คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล กับวัฒนธรรมการแต่งกายสไตล์บ้าบ๋า

คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล กับวัฒนธรรมการแต่งกายสไตล์บ้าบ๋า

แนะนำเครื่องแต่งกายแบบสาวบ้าบ๋า
การแต่งกายของสาวชาวบ้าบ๋าในภูเก็ตสามารถแบ่งแยกออกมาได้ 3-4 แบบ แบบแรก คือการใส่เสื้อคอตั้งแขนจีบกับโสร่งปาเต๊ะ แบบที่สองคือใส่เสื้อย่าหยากับโสร่งปาเต๊ะ เสื้อย่าหยาก็ยังสามารถแบ่งออกได้เป็นสามแบบ แบบโบราณจะเรียกว่า แบบลินดา ตัวเสื้อเป็นผ้าธรรมดา แต่ติดปลายคอ แขน และสะโพกด้วยผ้าลูกไม้ ลักษณะการขลิบริมเสื้อด้วยผ้าลูกไม้จะเป็นวัฒนธรรมจากต่างประเทศ หลังจากนั้นไม่นานเสื้อย่าหยาก็มีออกมาอีกแบบคือ แบบบีกู จะเป็นผ้าป่านหรือผ้ามัสลินหรือเป็นผ้าฝ้าย ปักลายเล็กๆด้วยจักร แต่ตัวเสื้อกับริมชายเสื้อจะมีคัตเวิร์คเป็นลายเปลือกหอยแครง รุ่นหลังจะเป็นเสื้อย่าหยาแบบซูแลม จะเห็นสวมใส่กันในปัจจุบัน คือ ตัวเสื้อจะเป็นสีพื้น สีม่วง สีแดง สีเหลือง แต่ปักฉลุลายด้านหน้าที่เป็นปลายแหลมลงมา หรือด้านหลังและปลายแขนเสื้อด้วยลวดลายเครือเถาดอกไม้ เป็นรูปสัตว์ นกยูง ปลาทอง สัตว์มงคลต่างๆ ช่วงนี้ก็จะเป็นที่นิยมมาก ลายปักฉลุอาจจะมีสีเดียวกับตัวเสื้อหรือมีสีสันแตกต่างกัน ค่อนข้างจะวิจิตร นุ่งกับผ้าโสร่งปาเต๊ะแล้วสวยงามมาก ยุคหลังๆ มาช่วงสมัยสงครามโลก ผ้าต่างๆจะค่อนข้างหายาก การแต่งกายแบบย่าหยาก็ค่อยๆเสื่อมลงไป ด้วยผ้าลูกไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศค่อนข้างจะหาง่าย คนภูเก็ตเราหรือสาวบ้าบ๋าก็จะนิยมใส่เสื้อลูกไม้แทน โดยการนำมาตัดให้เข้ากับทรวดทรงของผู้ใส่ เราเรียกว่า เสื้อลูกไม้ต่อดอก ลักษณะคอก็แล้วแต่ผู้สวมใส่จะชอบ อาจเป็นคอกลม คอวี คอเหลี่ยม เป็นต้น

เครื่องประดับของชาวบ้าบ๋า
นอกเหนือจากเสื้อผ้าที่สวยงามแล้ว เครื่องประดับก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สาวบ้าบ๋าในภูเก็ตหรือในตะกั่วป่า ก็จะใส่เครื่องประดับตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า พวกคหบดีผู้หญิงหรือนายหัวหญิง ถ้าเป็นสมัยก่อนจะเกล้าผมออกนอกบ้าน แล้วติดปิ่นประดับ หรือถ้าเป็นเจ้าสาวก็จะมีมงกุฎดอกไม้ไหวที่ทำจากดิ้นทอง บริเวณคอก็จะใส่เครื่องประดับที่เรียกว่าหลั่นเตป๋าย ใส่ตุ้มหูแบบที่ช้อนกับใบหูขึ้นไปจะเรียกว่า หางหงส์ แหวนก็จะมีลักษณะเป็นทรงข้าวหลามตัด เรียกว่าแหวนบาเยะ ถ้าเป็นการออกงานสำคัญๆ ก็อาจจะใส่แหวนแปดนิ้วหรือทั้งสิบนิ้ว บางคนอาจใส่กำไลข้อเท้าทอง ยังมี กิมตู้น เป็นกระดุมซึ่งทำมาจากเหรียญเงินหรือเหรียญทองของต่างประเทศ อาจมีการนำมาทำเป็นจี้ห้อยรูปหงส์หรือมังกร ใช้กับเสื้อคอตั้งแขนจีบสีขาว มีสร้อยทองลักษณะเหมือนเมล็ดกาแฟเป็นแฟชั่นของสาวบ้าบ๋า ยังมีอีกชิ้นที่สาวบ้าบ๋ามักจะมีไว้ประดับ เรียกว่า ปินตั้ง ลักษณะทรงกลมนูนเป็นดาวแฉก อาจเป็นจี้ห้อยหรือเข็มกลัดก็ได้ ซึ่งบางอย่างเราจะเรียกทับศัพท์เหมือนกับทางมลายู ปีนัง มะละกา แต่บางอย่างก็จะเรียกเป็นภาษาไทย เหล่านี้เป็นต้น

ปัจจุบันคุณสุชาดามีหน้าที่ผลักดันการแต่งกายแบบบ้าบ๋าย่าหยาอย่างไรบ้าง
ปกติเป็นคนชอบแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองภูเก็ตอยู่แล้ว เวลาใส่ไปไหน ทุกคนก็จะชอบ ก็ผลักดันเพื่อนๆรุ่นเดียวกันให้สวมใส่ เราจะคอยเป็นพี่เลี้ยง แนะนำว่าควรจะใส่เสื้อสีอะไร เข้ากับผ้าถุงสีอะไร โดยมีเทคนิค ให้ดูผ้าถุงก่อนว่ามีสีอะไรบ้าง เราก็สามารถเลือกสีใดสีหนึ่งในตัวผ้าถุงมาเป็นสีเสื้อ ควรเลือกสีที่ตัดกันจะสวยงามโดดเด่นกว่าเลือกสีเสื้อกับผ้าถุงสีเดียวกัน ยกตัวอย่างผ้าถุงสีส้ม เสื้อสีส้ม สามารถใส่ได้ไม่ผิดกติกา แต่ดูแล้วไม่สะดุดตา กรณีเจอนักท่องเที่ยวหรือใครเข้ามาถาม ก็จะบอกไปว่าชุดแบบนี้เรียกว่าอะไร หาซื้อได้ที่ไหน จะแนะนำเท่าที่เราแนะนำได้

อยากเห็นอนาคตของการแต่งกายแบบบ้าบ๋าย่าหยาเป็นอย่างไร
ในอนาคตหรือในปัจจุบัน ก็อยากจะเห็นสาวบ้าบ๋าของภูเก็ตเราหรือผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ต เลือกที่จะแต่งกายชุดพื้นเมือง ในลักษณะของเสื้อคอตั้งแขนจีบหรือเสื้อย่าหยากับโสร่งปาเต๊ะ ซึ่งเป็นชุดที่ใส่ง่าย สวยงาม เราใส่กันมากๆ แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกด้วย

สำหรับคนที่สนใจอยากแต่งตัวแบบนี้บ้างจะสามารถหาชุดได้ที่ไหน
ถ้าท่านใดสนใจที่จะแต่งกายสวยงามแบบพื้นเมืองภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเสื้อคอตั้งแขนจีบ เสื้อย่าหยา หรือเสื้อผ้าลูกไม้ต่อดอก แนะนำให้มาที่ถนนถลางย่านเมืองเก่าของเรา มีหลายร้านค้าที่ขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปหรือแบบเป็นชิ้นสั่งตัดได้ ถ้าเป็นผ้าปาเต๊ะอยากจะแนะนำร้านวีอาร์ ร้านโตราคาน อนันต์พาณิชย์ และอีกหลายๆร้านในย่านเมืองเก่า แต่ละร้านจะมีเสน่ห์ของผ้าปาเต๊ะที่เอามาขายให้ลูกค้าไม่เหมือนกัน เพราะบางร้านสั่งมาจากอินโดนีเซีย บางร้านนำมาจากแถบมาเลเซีย ลักษณะการทำผ้าแต่ละผืนหรือลวดลายการวาดและการให้สีสันก็จะไม่เหมือนกัน ที่อยากจะแนะนำอีกเรื่องก็คือ การนุ่งโสร่งปาเต๊ะ ไม่แนะนำให้ตัดเป็นกระโปรงสำเร็จ อยากจะให้เย็บเป็นถุงโดยการสอยมือหรือใช้จักรเย็บแล้วนุ่งเอาจะดีกว่า เวลาที่เราอ้วนขึ้นหรือผอมลง หรือใครอยากจะใส่ก็สามารถที่จะใส่ได้ เพราะผ้าผืนหนึ่งราคาไม่ได้ถูก และไม่แนะนำให้ซื้อผ้าผืนละร้อยหรือที่มีราคาไม่สูง เพราะผ้าพวกนี้จะผสมโพลีเอสเตอร์ จะนุ่งยากและไม่สวย แนะนำเป็นผ้าฝ้ายราคาสามร้อยกว่าบาทขึ้นไปจะดีกว่า

คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล กับวัฒนธรรมการแต่งกายสไตล์บ้าบ๋า

คุณสุชาดา จันทร์ชูวณิชกุล ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทภูเก็ตนำแสง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทั้งหมด 7 สาขา นอกจากธุรกิจดังกล่าวแล้ว เธอยังดำรงตำแหน่งเป็นอนุกรรมการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคีภูเก็ต จำกัด และในอดีตยังเคยดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิเมืองเก่าภูเก็ตอีกด้วย

หากอ้างอิงตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ระบุว่า “บ้าบ๋า” คือคำที่ใช้ เรียกชายที่เป็นลูกครึ่งจีนกับมลายูที่เกิดในมลายูและอินโดนีเซีย คู่กับคำ ย่าหยา ซึ่งหมายถึงหญิงลูกครึ่งจีนกับมลายูที่เกิดใน มลายูและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดีสำหรับชาวภูเก็ตแล้วมักจะเรียกลูกครึ่งจีนกับมลายูทั้งเพศชายและหญิงรวมๆว่า “บ้าบ๋า” หรือ “เพอรานากัน”

ร่วมแสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.